DIARY : 17/09/12
สวัสดีวันจันทร์ วันนี้มาเรียนหนังสือ ตอนเที่ยงกินข้าว เรียนหนังสือต่อ เรียนพิเศษ ง่ายดีเนอะ:)
คืนนี้ฝันหวาน ; )
__________________________________________________
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555
DIARY : 16/09/12
DIARY : 16/09/12
วันนี้ก็ตื่นสายเช่นกัน ตื่นมาก็กินข้าว ทำการบ้าน เล่นคอม นั่งดูละคร^^ คืนนี้ฝันดี ; )
__________________________________________________
วันนี้ก็ตื่นสายเช่นกัน ตื่นมาก็กินข้าว ทำการบ้าน เล่นคอม นั่งดูละคร^^ คืนนี้ฝันดี ; )
__________________________________________________
DIARY : 15/09/12
DIARY : 15/09/12
เมื่อคืนฟ้าร้องเลยไม่ได้เปิดคอมมาเขียนไดอารี่เลย-O- งั้นเริ่มละ เช้าก็ตื่นสายมากกก ตื่นมาก็ทำการบ้านๆๆๆ กินข้าว ทำการบ้าน ทำการบ้าน ทำการบ้าน กินข้าว ทำการบ้าน นอน
{การบ้านเยอะไปไหน} ; )
BYE.
เมื่อคืนฟ้าร้องเลยไม่ได้เปิดคอมมาเขียนไดอารี่เลย-O- งั้นเริ่มละ เช้าก็ตื่นสายมากกก ตื่นมาก็ทำการบ้านๆๆๆ กินข้าว ทำการบ้าน ทำการบ้าน ทำการบ้าน กินข้าว ทำการบ้าน นอน
{การบ้านเยอะไปไหน} ; )
BYE.
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555
LINK BLOG
BLOG : M.4/3
1
2 http://napattttt.blogspot.com/
3
4
5
6 http://railw.blogspot.com/2012_09_01_archive.html
7 http://m43no07.blogspot.com/
8
9
10 http://
11
12 http://
13
14
15
16 http://paisawas.blogspot.com/
17 http://workkkkkk.blogspot.com/
18 http://
19 http://belhfl032.blogspot.com/
20
21
22
23
24
25
26 http://healthyy2.blogspot.com/
27
28
29
30
31
32
33 http://freewebp.blogspot.com/
34
35
36
37
38
39
40
DIARY : 14/09/12
DIARY : 14/09/12
วันนี้เป็นวันศุกร์ -_- จะได้หยุดเสาร์-อาทิตย์แล้ววววว วันนี้ตื่นสายไปหน่อย มาถึงโรงเรียนก็จะเข้าแถวพอดี -0- ตอนเช้าก็เรียนวิทยาศาสตร์ต่อมาก็เรียนภาษาไทยและก็เรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็ไปกินข้าวเที่ยง แล้วกับมาเรียนต่อจนเย็น การบ้านเยอะมาก+
กลับบ้านมาแล้วก็พบกับบบ MV ใหม่เกิล >< [><]
คืนนี้ฝันดี;)
________________________________________________________________________
กลับบ้านมาแล้วก็พบกับบบ MV ใหม่เกิล >< [><]
คืนนี้ฝันดี;)
________________________________________________________________________
วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555
บทความ : 8 อาหารที่กินแล้วง่วงตลอดเวลา
8 อาหารที่กินแล้วง่วงตลอดเวลา
คุณเคยสงสัยตัวเองบ้างไหมค่ะว่าทำไมถึงได้มีอาการง่วงนอนตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม นั้นคุณลองสังเกตตัวเองดูนะค่ะว่าได้กินอาหารที่มีสาเหตของการง่วงนอนตลอดเวลาบ้างรึเปล่าค่ะ
1. กาแฟ ดื่มกาแฟตอนเช้าโดยที่กระเพาะอาหารยังว่างเปล่าจะทำให้ง่วงได้ เพราะหลังจากดื่มกาแฟได้ 30 นาที กาเฟอีนจะเข้าไปในกระแสเลือดและไปที่สมองส่งผลให้ออกซิเจนที่ส่งไปยังสมองถูกสกัดกั้นแล้วความง่วงก็จะตามมา
2. กล้วย เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานอย่างรวดเร็วช่วยสลายความเครียด ฮอร์โมนเซโรโทนินและนอร์เอพิเนฟรินจากกล้วยจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข แต่ถ้ารับประทานกล้วยมากเกินไปจะทำให้เราเกียจคร้านและไม่อยากขยับเคลื่อนไหวร่างกาย
3. ช็อกโกแลต สาร Phenylethylamine ในช็อกโกแลตจะทำให้ง่วงนอน ดังนั้น ช็อกโกแลตจึงเปรียบเสมือนยาที่ช่วยให้นอนหลับและถ้าหากมีโกโก้ในปริมาณสูงก็จะทำให้รู้สึกมีความสุข
4. ครัวซองต์ หากรับประทานครัวซองต์ 2-3 ชิ้นจะรู้สึกง่วงนอน เพราะครัวซองต์มีปริมาณแป้งขัดขาวมากและอุดมไปด้วยไขมันอีกด้วยซึ่งไขมันจำเป็นต้องใช้พลังงานในการย่อย ดังนั้น เมื่อรับประทานครัวซองต์เข้าไปร่างกายก็จะดึงเลือดจากสมองไปที่กระเพาะเป็นจำนวนมากเมื่อสมองมีเลือดหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอก็จะทำให้ง่วงนอน หากคุณต้องทำงานเร่งด่วนก็ควรรับประทานครัวซองต์ได้แค่ชิ้นเล็ก ๆ หนึ่งชิ้น
5. ขนมปังขาวและข้าวขาว อาหารทุกชนิดที่ทำมาจากแป้งขัดขาวเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้ง่วงเหตุผลก็คือ มันเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วนจึงทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากจึงทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงและทำให้ง่วงนอน
6. ถั่วเปลือกแข็ง มีกากใยอาหารมากซึ่งจะไปชะงักกระบวนการย่อยอาหารและยังถูกส่งต่อไปยังลำไส้ใหญ่โดยไม่ได้ย่อย และกระตุ้นแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่มีหน้าที่จัดการกับกากใยอาหาร ผลก็คือทำให้ท้องอืดเฟ้อและง่วงนอนโดยเฉพาะถ้ารับประทานถั่วผสมเกลือก็จะทำลายวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบีซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
7. ของหวาน เช่น ขนมหวาน เค้ก คุกกี้ เครื่องดื่มหวาน ๆ น้ำตาล ทำให้ง่วงนอนและยังเป็นตัวแย่งวิตามินบีไปจากร่างกายเราด้วย เช่น วิตามินบี 1 บี 3 บี 6 และกรดโฟลิก และเมื่อร่างกายขาดแคลนวิตามินดังกล่าวก็จะทำให้เรี่ยวแรงถดถอยจึงส่งผลให้รู้สึกง่วง
8. ผลิตภัณฑ์นมหรือโยเกิร์ต เป็นอาหารที่มีประโยชน์แต่ถ้ารับประทานโยเกิร์ตเข้าไปมากก็จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโปรตีน แต่ในขณะเดียวกันโปรตีนที่ว่านี้ก็จะแยกกรดอะมิโนจากร่างกายซึ่งจะส่งผลให้มีกรดมากเกินในร่างกายและทำให้ง่วงตลอดเวลา
Credit : www.sanook.com , http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2574295
Credit : www.sanook.com , http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2574295
บทความ : เรียนรู้เทคนิคอ่านไว
เรียนรู้เทคนิคอ่านไว
| |
|
บทความ : 10 ข้อแตกต่างระหว่างนักร้องเกาหลี VS นักร้องไทย
|
1. ดารานักร้องเกาหลีเข้าถึงตัวยากมากกกก เปรียบประดุจเทวดา เดินห้างก็ไม่ค่อยได้ (เวลาไปเดินห้าง ต้องพรางตัวด้วยผ้าปิดปาก 555) แม้กระทั่งกับแฟนคลับเกาหลีด้วยกันเองยังไม่สามารถเข้าถึงได้ สังเกตได้ง่ายๆ ว่าไม่ว่าศิลปินจะไปไหนมาไหนก็จะมีผู้จัดการวงคอยห้อมล้อมประดุจไข่ในหินตลอดเวลา และถ้าหากมีแฟนคลับคนไหนกล้าเข้าไปแตะตัวศิลปินแม้แต่น้อย อาจจะโดนผู้จัดการวงลากออกไปด่าหรือเสยหน้าตรงนั้นเลยก็ได้ค่ะ (เรื่องจริงนะเออ) ดังนั้นน้องๆ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนเกาหลีถึงดูคลั่งไคล้ศิลปินดาราในประเทศตัวเองกันแบบเว่อร์ๆ ก็เพราะเค้าหาโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดยากมากๆ นั่นเองค่ะ ขนาดเป็นคนประเทศเดียวกันแท้ๆ นะเนี่ย
ส่วนดาราไทยนี่ โอ๊ยยยย ไปเดินพารากอนทุกรอบ ต้องได้เจอดาราทุกรอบเถอะ 555 ตามตัวกันได้ง่ายสุดๆ บางคนเจอ 10 รอบก็ขอลายเซ็นได้ 10 ครั้ง ถ่ายรูปคู่ด้วยอีก 10 ที ใกล้ชิดอินไซด์กันได้อีก
2. ดารานักร้องเกาหลีส่วนมาก ต้องดร็อปการเรียนเพื่อมาทำงานในวงการบันเทิง ดังนั้นแม้แต่นักร้องดังๆ บางคน อายุปาไปจะ 30 ก็ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลยล่ะ แต่ของไทยนี่ไม่ได้เลยนะคะ ต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ถึงจะถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีน่าชื่นชมให้กับแฟนคลับ ดังนั้นในประวัติของนักร้องเกาหลี เค้าจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องประวัติการเรียนกันเท่าไร แต่นักร้องไทยนี่ ร่ายกันมาตั้งแต่เตรียมอนุบาลเลยว่าเรียนที่ไหน เรียนจบมหาวิทยาลัยอะไรยังไง รู้กันหมด
3. นักร้องเกาหลีที่เป็นกลุ่ม มักต้องอยู่หอพักด้วยกัน เพื่อให้สะดวกต่อการไปทำงาน เวลาไปก็จะได้กระโดดขึ้นรถพร้อมกันแล้วไปเลย ซึ่งน้องๆ อาจจะมองว่าการอยู่หอพักเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ว่ามันจะมีเป็นลำดับขั้นค่ะ เช่น ในตอนแรกที่เดบิวต์ใหม่ๆ ยังไม่ดังมาก ก็จะได้อยู่หอพักเล็กๆ ไปก่อน แต่พอเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ได้รับรางวัลนั้นนี้ เพลงติดชาร์ทอันดับ 1 ก็อาจจะได้ย้ายไปอยู่หอพักใหม่ที่ใหญ่ขึ้น สบายขึ้น หรือถ้าใครในวงมีผลงานที่เด่นกว่าเพื่อน ก็อาจจะได้รับสิทธิพิเศษให้นอนห้องเดี่ยวเลยก็ได้ ส่วนดาราไทยเหรอ......ก็นอนที่บ้านไงคะ 5555 แต่ว่าดีนะ เพราะทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ได้กลับมาที่บ้านเจอหน้าคนในครอบครัว เหนื่อยแค่ไหนก็หายเป็นปลิดทิ้งเนาะ
4. ศิลปินนักร้องเกาหลีที่เป็นกลุ่ม (บอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป) จะค่อนข้างดังกว่านักร้องที่ออกมาเดี่ยวๆ ยิ่งคนเยอะยิ่งดัง เวลาขายก็ขายเป็นแพ็ค ถ้าใครดังโดดเด่นออกมาก็จะสามารถขายเดี่ยวๆ ได้ แต่นักร้องไทยส่วนมากที่มีเพลงฮิตๆ ติดหูเรา ส่วนมากจะเป็นนักร้องเดี่ยวกันทั้งนั้นเลยล่ะ
5. นักร้องเกาหลีก่อนจะได้เดบิวต์นั้น ต้องฝึกหัดกันมา นานมากกกกกกกกก นานกันจนลืมโลกจริงๆ บางคนเป็น ศิลปินฝึกหัดกันตั้งแต่ฟันแท้ซี่แรกเพิ่งขึ้น (ขนาดนั้นเลย) บางคนยาวนานเกือบ 10 ปีก็มี เช่น ซอนเย wonder girls , โจควอน 2am , เจสสิก้า snsd และในการฝึกของเค้านั้น ถึงแม้จะรอเดบิวต์เพื่อเป็นนัก ร้อง แต่ก็ไม่ได้ฝึกกันแค่การร้องเพลงนะคะ แต่เค้าฝึกกัน หมดไม่ว่าจะเป็นทักษะการแสดง การเต้น การเป็นพิธีกร ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยเวลาเห็นนักร้องเกาหลีผันตัว ไปเล่นละครแล้วเล่นออกมาได้อินมากๆ ส่วนนักร้องไทยนั้น ส่วนมากฝึกหัดกันแป๊บๆ ปีสองปีก็ได้ ออกแล้วล่ะค่ะ เพราะส่วนมากถ้าฝึกหัดกันนานมากๆ จะ กลายเป็นโดนดองไปซะมากกว่า |
6. นักร้องเกาหลีต้องมี "ลีดเดอร์" หรือหัวหน้าวงอย่างชัดเจน ซึ่งส่วนมากก็จะยกตำแหน่งนี้ให้คนที่มีอายุมากที่สุดในวงไปโดยปริยาย เช่น แทยอน snsd , อีทึก super junior , คยูริ kara เป็นต้น ซึ่งการเป็นลีดเดอร์นั้นก็จะมีหน้าที่คอยตอบคำถามเวลาไปออกรายการต่างๆ (สมาชิกในวงมีเยอะมาก ไม่รู้จะให้ใครตอบ ดังนั้นจึงต้องมีลีดเดอร์ขึ้นมาเพื่อการณ์นี้) รวมถึงเวลาที่ในวงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ลีดเดอร์ก็จะต้องเป็นคนหลักๆ ที่จะตัดสินใจอีกด้วย ส่วนนักร้องไทยนั้น ไม่ค่อยมีตำแหน่งหัวหน้าวงที่ชัดเจนเท่าไหร่ค่ะ
7. นักร้องเกาหลี ถึงแม้อยู่คนละบริษัทคนละค่าย ก็ สามารถมาร้องเพลงบนเวทีเดียวกันได้ แถมยังสนิทกัน มากๆ เพราะในรายการคอนเสิร์ตต่างๆ ในแต่ละสัปดาห์ นั้น จะมีนักร้องหลายๆ ค่ายมาขึ้นเวทีเดียวกัน แถมบาง ครั้งยังมี special stage ด้วยการให้นักร้องต่างค่ายมา ร้องเพลงด้วยกันอีกแน่ะ จึงทำให้นักร้องเกาหลีต่างค่าย หลายคู่สนิทกันมากๆ เช่น แจจุง ดงบังชินกิ กับ ฮยอนจุง SS501 หรือจะเป็น นิโคล Kara กับ คีย์ Shinee ต่างก็ เป็นเพื่อนซี้ปึ๊กมากๆๆ นั่นเอง หรือจะเป็นการร้องเพลงดูเอทในอัลบั้ม ที่ศิลปินต่างค่าย จะมาช่วยร้องคู่หรือช่วยร้องแร็พ ก็เป็นอะไรที่ปกติมากๆ สำหรับวงการบันเทิงของเกาหลี ไม่มีพรมแดนระห่างค่าย จริงๆ ส่วนนักร้องไทยนั้น หาโอกาสยากมากๆ ที่ศิลปินต่าง ค่ายจะได้มาขึ้นเวทีเดียวกัน ยกเว้นอีเวนท์พิเศษจริงๆ เช่น เพลงช่วยชาติ เพลงปลุกใจอะไรทำนองนั้นอ่ะค่ะ ถึง จะได้มาร้องเพลงด้วยกัน |
8. ดารานักร้องเกาหลีมีแอนตี้แฟนที่น่ากลัวมาก เกลียดกันจริงจังมากถึงกับมีสมาคมแอนตี้แฟนตั้งขึ้นเป็นกลุ่มเลยทีเดียว ถ้านักร้องคนนั้นขึ้นมาร้องเพลงบนเวที พวกแอนตี้แฟนก็จะโห่ไล่ ทำป้ายมาด่า หรือด่าลงในอินเทอร์เน็ตที่ใช้คำหยาบคายแบบรุนแรงสุดๆ หรือบางทีก็เล่นกันถึงชีวิต เช่น กรณีของยุนโฮ ดงบังชินกิ ที่เคยเจอแอนตี้แฟนลอบทำร้ายด้วยการผสมกาวลงไปในเครื่องดื่มให้กิน จนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว .... ส่วนนักร้องไทยนั้นนับว่ายังโชคดีมากกว่าค่ะ ที่ไม่มีแอนตี้แฟนรุนแรงขนาดนี้ ส่วนมากก็จะเป็นแค่ด่าลงอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ไม่ถึงกับทำร้ายให้เจ็บตัวหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง
9. เพลงเกาหลีส่วนมากที่ดังๆ จะเป็นเพลงเร็วมากกว่า เพลงช้า หรือเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลแรกนั่นเอง อันนี้ก็ไม่รู้ เหมือนกันว่าทำไมถึงนิยมโปรโมตกันแต่เพลงเร็ว (อาจ เพราะต้องการให้นักร้องได้โชว์ความสามารถในการเต้น) แต่บางทีก็น่าเสียดาย เพราะสมมมติว่าในอัลบั้มมีทั้งหมด 10 เพลง ก็ดันโปรโมตกันแต่เพลงเร็ว 2 เพลงแรก ทั้งๆ ที่ ในอัลบั้มนั้นมีเพลงช้าเพลงอื่นๆ ที่เพราะอีกเยอะมากๆๆ แต่ กลับไม่ให้นักร้องมาโชว์พลังร้องเพลงช้าบ้าง ซึ่งรู้สึก ว่ามันเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆ เลย อย่างอัลบั้มล่าสุด ของสาวๆ snsd มีเพลงช้าๆ เพราะๆ อย่าง forever , caramel coffee และ star star star แต่ก็แทบไม่ได้ โปรโมตเลย รวมถึงศิลปินในวงนั้น ถ้าใครมีหน้าที่อะไรก็จะได้ทำแต่ หน้าที่นั้นๆ ตลอดปีตลอดชาติ เช่น อึนฮยอก super junior ซึ่งถนัดเต้น เป็นแกนนำในการเต้นของวง เจอกี่ทีก็ เต้นอย่างเดียว แต่น้องๆ รู้มั้ยว่าอึนฮยอกร้องเพลงช้า เพราะมากๆ จนบางทีก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ไม่มีโอกาส ได้ใช้ความสามารถในการร้องเพลงมาโชว์บ้างเลย ส่วนเพลงไทยนั้น เพลงที่ฮิตติดหูก็จะมีทั้งเพลงเร็วเพลง ช้าสลับกันไปค่ะ โปรโมตหมดทั้งเพลงช้าเพลงเร็ว อันนี้ถือ ว่าเป็นข้อดีมากๆ เลยนะเนี่ย |
10. และข้อสุดท้าย ดารานักร้องเกาหลีฆ่าตัวตายกันบ่อยมาก = =" ไม่รู้จะเครียดหรือกดดันอะไรนักหนาจึงต้องหาทางออกของชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ปีหนึ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกัน 3-4 รอบเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจาก สังคมเกาหลีเป็นสังคมที่พร้อมจะสรรเสริญคนทำดีให้รุ่งเรือง แต่ก็พร้อมจะเหยียบย่ำคนที่ทำผิดให้ล่มจมเลยทีเดียว ดังนั้นบางคนที่หลงทำผิดรุนแรง อาจจะกลัวเจอการเหยียบย่ำ จึงตัดสินใจจบปัญหาชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ .... ส่วนดารานักร้องไทย ปัญหานี้เลิกพูดไปเลยค่ะ แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)